ข่าวที่อาจแถลงไม่หมด หรือจดกันไม่ทัน
สวัสดีครับ ผมนายศรัลย์ ธนากรภักดี ในนามผู้ประสานงานกลุ่มพิทักษ์อากาศสดชื่น มาบตาพุด ระยอง และเป็นวิศวกรโยธา ครับผมจะพูดช้าๆ จะได้จดทัน หรือบันทึกทัน เพราะเรื่องที่จะพูดนี้มีความอ่อนไหวมาก
หลายเดือนก่อน เราพูดกันถึงเรื่อง ปัญหาอุบัติภัยสารเคมีและก๊าซอันตราย โรงงานอันตรายต่างๆ ที่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เราพูดกันเราประชุมกัน หาข้อสรุปกัน นานมากกว่า 9 เดือน จนบัดนี้ดูเหมือนยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
แต่ วันนี้ ที่ผมจะพูด จะพูดเรื่อง หายนะภัย ที่มีผลกับชีวิตและสภาวะแวดล้อมในวงกว้าง และจะส่งผลกระทบกับเรื่องเศรษฐกิจด้วย ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ใหญ่เอามากๆ เพราะเมื่อไม่กี่วันมานี้ ทางกลุ่มได้ทำจดหมายถึง ประธานเจโทร กรุงเทพ องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น – ส่งไปตอนดึกของคืนวันอังคาร ที่ 3 ส.ค. ได้จดหมายถูกตอบ เช้าวันศุกร์ที่ 6 ส.ค. คิดดูสิครับ จดหมายฉบับนี้ ท่านประธานเจโทร คงได้อ่าน ตอนสายๆ หรือบ่าย วันพุธที่ 4 ส.ค. พร้อมกับดูรายละเอียดต่างๆ ตามที่จดหมายอ่านถึง ดูข้อมูลต่างๆ ประกอบการตัดสินใจที่จะตอบ วันพฤหัสที่ 5 ส.ค. ตอนสายๆ อาจจะตัดสินใจที่ จะตอบ เพราะต้องร่าง และตรวจทาน อย่างรอบคอบ ถึงแม้จะตอบ คนที่ไม่เคยรู้จัก แต่ชื่อคุ้นเคยมาก จดหมายที่กลุ่มส่งไป ในนาม คนมาบตาพุด ระยอง ท่านประธานเจโทร คงต้องตอบด้วยความระมัดระวังมาก เพราะเป็นเรื่องที่อาจส่งผลกระทบกับธุรกิจและนักลงทุนของชาวญี่ปุ่นด้วย ท่านตอบมาด้วยความเร่งร้อนที่ต้องใช้ความรอบคอบ แสดงถึงความกังวลและห่วงใยในปัญหานี้ พร้อมกับแจ้งมาซ้ำๆย้ำๆ ถึงวิธีคิดและดำเนินการต่างๆ ของชาวญี่ปุ่น นักธุรกิจญี่ปุ่น เกี่ยวกับโรงงาน และความแข็งแรงปลอดภัยของโครงสร้าง และอ้างถึงสามัญสำนึกของชาวญี่ปุ่น ว่ามีความใส่ใจกับเรื่องความปลอดภัยเรื่องความแข็งแรงของโครงสร้างต่างๆมาก เพราะประเทศญี่ปุ่นต้องเผชิญหายนะภัยจากธรรมชาติที่โหดร้าย บ่อยครั้ง ทั้งแผ่นดินไหว ทั้งพายุต่างๆ ประกอบกับมีประชาชนจำนวนมาก ถึง 120 ล้านคน ในพื้นที่จำกัด มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องที่บอกว่า คนญี่ปุ่นทำไมต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยกับการก่อสร้างต่างๆ มาก และมีความเข้าใจดีกับเรื่องที่พึ่งได้รับรู้ ... หายนะภัยของมาบตาพุด ที่รอว่าจะเกิดวันไหน และกำลังเผชิญกันอยู่กับความเสี่ยงนั้น ในขณะนี้ และหวังอย่างสูงยิ่งว่า ครับต้องใช้คำว่าหวังอย่างสูงยิ่ง เพราะใช้ว่า Highly Hope หวังอย่างสูงยิ่งว่า นายกอภิสิทธิ์ และรัฐบาลไทย จะจัดการปัญหานี้อย่างเหมาะสม – ยังงงว่า ทำไมไม่หยิกมือนายกอภิสิทธิ์ ที่จะให้หยุดความเสี่ยงนี้ โดยพลัน – เพราะเรื่องราวนี้ นายกอภิสิทธิ์ รมต. ที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ รับรู้เรื่องนี้ กันมานานมากแล้ว และยังย้ำอีกว่า รัฐบาลจะให้ปฏิบัติต่อเรื่องนี้อย่างไร แต่ผมเชื่อว่า ญี่ปุนไม่ถึงขนาดจะถอนการลงทุน
มาถึงตอนนี้ เรามาดูครับว่า อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านประธานเจโทร ต้องตอบ จดหมายอย่างเร่งด่วน และเรื่องนี้เป็นเรื่องอะไร ผมอยากให้ พักหูดูวีดิโอ เรื่องนี้กันก่อน ดูแล้ว จะอึ้ง!!! ว่าเกิดเหตุนี้ กับประเทศไทย โดยบริษัท ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด ในประเทศ และรัฐบาลไทยและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รับรู้กันนานมากแล้วแต่ทำไมกลับนิ่งเฉยกันหมด โดยไม่ทำอะไรเลย เป็นเวลานาน ....
....................................
ผมเป็นวิศวกรที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ มาตั้งแต่เรื่องราคา เรื่องแผนงานที่เร่งรัด เรื่องการนำเสนอแผนที่จะเข้าทำงาน ให้ได้ประสิทธิผล ให้คำแนะนำปรึกษา ในหลากหลายเรื่อง ติดตามเร่งรัดงาน แต่ไม่เคยได้เข้าไปดูหน้างานเลย เข้าไป 1 ครั้ง เพื่อร่วมประชุมตอนวัสดุนั่งร้านไม่เพียงพอ แต่มีความเร่งด่วนมาก ไม่ได้ไปยืนตากแดดดูงาน คุมงาน ก้อแบบนั้นครับ
และความจริง ผมคิดว่าสื่อมวลชน จำนวนมากรับรู้เรื่องนี้กันมานานมากระดับหนึ่ง แต่ไม่รู้ทำไมเฉยชากันอยู่นาน – รายละเอียดเยอะ แต่น่าที่จะเข้าใจได้ง่าย เพราะทางกลุ่มเองนำเสนอให้ดูแบบง่ายๆ โครงสร้างหอพิเศษสำคัญสูงเท่าตึก 10 ชั้น โดยไม่ตอกเสาเข็ม – ไม่น่าที่จะต้องใช้ เทคนิคอะไรมากในการอธิบาย หรือเข้าใจ เพราะน่าจะเป็นสำนึกของคนโต ก้อน่าที่จะเข้าใจอะไรได้ง่ายๆ แต่ดูเหมือน ทุกภาคส่วนไม่เข้าใจ ทุกฝ่ายเงียบกันหมด เหมือนกับรอให้เกิดเหตุก่อนหรืออย่างไร ให้มีผู้คนตายกันมากๆ ก่อน หรืออย่างไร (ตรงนี้ หลายคนในกลุ่มฝากมาถาม)
ผมขอตอบคำถามไม่มาก และเรื่องราวรายละเอียด วิดีโอต่างๆ ให้ไปดูในเวบบล็อกที่มีจำนวนมาก รวมทั้งประวัติของกลุ่ม ของตัวผม อยู่ในนั้นทั้ง หมด
เวบบล็อก – ข้อมูลต่างๆ วีดิทัศน์ คำฟ้อง
http://khonmaptaphut.blogspot.com/
http://airfresh-society.blogspot.com/
อีเมล์
airfresh.society@gmail.com
khon.maptaphut@gmail.com
ผู้ประสานงานกลุ่มพิทักษ์อากาศสดชื่น มาบตาพุด ระยอง
ศรัลย์ ธนากรภักดี โทร.081-357-4725
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น