วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ป้ายเก่า เล่าเรื่อง EIA โรงไฟฟ้าถ่านหิน BLCP

บังเอิญมันแปะอยู่บนป้ายในห้องเก็บของ ถ่ายรูปมามันเลยดำๆ ไม่ชัด ตรงที่เอาปากกาเขียนไว้ 4500 ลบ.ม/วัน นั่นแหระ ผลกระทบ ที่รายงาน EIA โรงไฟฟ้า ปล่อยว่างไว้ ผมเลยไปเติมให้ แล้วออก จม. หา ผจก.โรงไฟฟ้า 555+ แบบด้านล่าง ถึง ชั่วโมงนี้ ต้องเอาความจริงมาให้ดู บางครั้งจะเตะหมูเข้าปากหมาบ้าง แต่คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ถือว่าสมควรทำ...แล้ว ก้อทำไปแล้ว...ผมเป็นคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่ คนที่ นสพ.ไทยรัฐ แขวะ!!!


ปี 2544 สมัยที่โรงไฟฟ้า BLCP จะมาสร้างที่ มาบตาพุด น้อยคนที่ให้ความสนใจ ผมบังเอิญเจอปัญหาเศรษฐกิจปี 40 หันไปยึดอาชีพ ซ่อมคอม-สอนคอม แล้วไปเจอเอาขยะ ที่ตั้งอยู่ข้างๆ ร้าน เหม็นทั้งกลางวันกลางคืน ยิ่งวันไหน อากาศร้อนอบอ้าว ก้อจะยิ่งทวีคูณ ความรำคาญ ปัญหากลิ่นขยะ ... ปมที่ ทำให้เกิด กลุ่มพิทักษ์อากาศสดชื่น...ตั้งแต่นั้นมา

ลองมาดูครับว่า ที่ว่า โรงไฟฟ้า BLCP ผ่าน EIA มาได้ไง ใช้น้ำวันล่ะ 4500 คิว ก้อประมาณ ชาวบ้านมาบตาพุดใช้ 3000 ครัวเรือน ว่าเอาประมาณ 60 % ประมาณนั้น แต่ในรายงาน EIA มีบันทึกแต่ไม่ มีความเห็นเรื่องผลกระทบ ทิ้งว่างไว้เฉยๆ เอาเป็นว่าใครถาม จะได้บอกว่า "เอ้า ลืมไป มันมากรายการ เลยไม่มีความเห็นใส่ไว้" ก้อในเมื่อ ตรงที่มีผลกระทบ ไม่มีไร มันก้อผ่านหมดล่ะ ไม่ว่า 4 ฝ่าย 5 ฝ่าย สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ ถ้าขาดความจริงใจ (ป้ายเก่าๆ ที่จู่ๆ จดหมาย ก้อไปอ้างชื่อ ชาวบ้านมาบตาพุด ส่งถึง ผู้จัดการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ผมก้อคนหนึ่งชาวบ้านคนนั้น ที่ไม่ใช่ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มไหนๆ) - ลองไปถามชาวบ้านสิ เค้าคิดอย่างไร ตอนนั้น ขนาดช่วงปี 2548 ขาดน้ำ ชาวบ้านทั้งหลายก้อไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แจกไปเถอะใบปลิวมีแต่คนโยนทิ้งเกลื่อนถนน ทำมาใบล่ะ 50 สตางค์ นั่นก้อเงินนะ - ก้อดี นะ ที่โรงไฟฟ้า BLCP มองเห็น Dead Lock เลยเร่งสร้างแหล่งเก็บน้ำขึ้นมา ... ถามจริงๆ ถ้าไม่ทำ จดหมายถึง ป่านนี้ ใครจะเดือดร้อนบ้าง ตรงนี้ แค่เอาป้ายเก่าๆ มาให้ดู ไม่ได้มาทวงอะไรใคร คนทำงานแบบผม ชีวิตเหมือนนกที่บินบนฟ้า ไม่จำเป็นที่ต้องทิ้งร่องรอย อะไรไว้ ให้ใครจดจำ (บางทีก้อเผลอถ่ายมาโดนใครบ้างต้องขออภัย) แต่ที่ต้องมาเขียนมาบอกตรงนี้ เพื่อบอกว่า ความคิดความเห็นผม ให้ประโยชน์ แม้ว่าหลายคนหลายฝ่ายจะรำคาญบ้าง แต่สุดท้ายก้อเกิดประโยชน์ กับทุกฝ่าย แบบนั้น ...

เพราะวันนี้ จะต้องมีการทำ HIA อีก ผมไม่ได้จ้องจะจับผิดใคร ผมบอกว่า ถ้าทุกฝ่ายมีความจริงใจจริงจัง อะไรๆ มันคงจะดีขึ้น แต่ถ้าทำเหมือน EIA ของโรงไฟฟ้า BLCP ที่จงใจลืม ปัญหาผลกระทบ ... ออกไปเถอะครับ อย่าให้วันหนึ่งของประเทศไทย จะทำอะไรๆ ก้อต้องไปทำประชามติกันจนวุ่นวาย จะทำโครงการอะไร ใช้เวลา 10ปี 20 ปี ล้าหลังประเทศอื่นๆ - ทำถนน ก้อต้องใช้หินใช้ดิน ใช้หินก้อต้องระเบิดภูเขา ต้องขุดบ่อลูกรัง บางครั้งทำอะไร ได้มาอย่างก้อต้องเสียอีกอย่าง จริงๆมันก้อต้องเป็นแบบนั้น อยู่ตรงที่เราคิดว่า ประโยชน์ที่เกิดมากกว่าโทษอย่างไร และโทษที่เกิดจะกระทบประชาชน-สิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดอย่างไร อะไรๆ มันก้อมีทางเลือกของมันอยู่ - ขอให้ทุกฝ่ายจริงใจครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น